บทที่ 3
สายฟ้าปริศนา
"ฉันไม่ชอบพายุฝนฟ้าคะนองเอาเสียเลย...."
สถานที่แห่งนี้คือ : ทางเดินแคบที่ลัดเลาะไปตามอาคารเรียน
ที่มุ่งตรงไปยังจุดหมายของโรงเรียนเซมบะด้านตะวันออก
ความเดิมตอนที่แล้ว >> เนื้อเรื่อง Guns GirlZ - Chapter 1+2 เบิกม่านวิกฤติถล่มโลกอะโพคาลิปส์และการตอบโต้ของเคียน่า โทรศัพท์มือถือของเคียน่าสามารถตรวจจับสัญญาณจุดกำเนิดแหล่งพลังงานที่ก่อให้เกิดวิกฤติการณ์อะโพคาลิปส์ได้ เธอจึงรีบมุ่งหน้าตรงไปยังที่หมายโดยใช้เส้นทางเดินแคบที่คอยลัดเลาะผ่านอาคารต่างๆ
"โอ้ให้ตายสิ เจ้าพวกนั้นมันตามฉันเข้ามาในนี้ด้วยเหรอเนี่ย!?"
แม้ว่าเคียน่าจะหนีเข้ามายังทางเดินลัดเลาะตัวอาคารที่มีขนาดเล็ก เธอก็ยังไม่พ้นการไล่ตามของฝูงซอมบี้นักเรียนสาวในโรงเรียนอยู่ดี นอกจากนี้ตามทางเดินที่เธอต้องผ่านก็ยังมีพวกซอมบี้จำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว
"เจ้าพวกนี้มันคิดจะไล่ตามฉันไปไม่หยุดหย่อนเลยใช่ไหมเนี่ย.. รู้สึกแย่ชะมัด"
เธอบ่นออกมาพร้อมกับเปลี่ยนทำการเปลี่ยนซองกระสุนปืนชุดใหม่
"ฉันต้องฝ่าฝูงพวกมันเพื่อที่จะไปยังต้นตอพลังงานอะโพคาลิปส์นั่นสินะ"
แล้วเธอก็พบว่าแม็กกาซีนและกระสุนต่างๆที่มีเหลืออยู่ในตอนนี้เริ่มเหลือน้อยเต็มที
"ฉันต้องปรับเปลี่ยนแผนเดิมที่มุ่งตรงไปยังเส้นทางนี้สินะ กระสุนเริ่มหมดแล้วด้วย สงสัยต้องวางแผนใหม่แล้วล่ะ"
เธอจึงต้องวางแผนเส้นทางผ่านทางใหม่ที่จะต้องหลีกเลี่ยงฝูงซอมบี้จำนวนมากที่แออัดอยู่ตามทางเดินขนาดนี้ (จนได้ทางเดินใหม่ตามแผนที่ 3 ดังรูปในเกมส์)
เธอยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูอีกครั้ง
หน้าจอบนมือถือแสดงถึงตัวเลขการประเมินโอกาสรอดชีวิตลดลงเหลือเพียง 5.78352% เท่านั้น!!!
"อะไรเนี่ย!? ลดลงอีกแล้วงั้นเรอะ มันเป็นไปได้ยังไงกัน? ฉันไม่ควรจะเชื่อมันตั้งแต่แรกเลยให้ตายสิ!"
แต่สุดท้ายแล้ว เธอก็ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากเตรียมอาวุธที่เหลืออยู่ทั้งหมด บุกฝ่าซอมบี้ที่อยู่บริเวณนั้นไปตามเส้นทาง
แล้วเธอก็ต้องรู้สึกหนักใจมากเพราะ ทางเดินโดยปกติมันก็เล็กและแคบอยู่แล้ว แถมซอมบี้ที่ปรากฏเบื้องหน้าเธอก็ดันสวมชุดตุ๊กตาเพนกวิ้นที่พองตัวทำให้ตัวของมันมีขนาดกว้างใหญ่กว่าปกติอีก แล้วก็มีซอมบี้ตัวเล็กอีกตัวเกาะอยู่บนหัวตุ๊กตาเพนกวิ้นตัวนั้นเพื่อควบคุมทิศทางการเคลื่อนที่ ซึ่งคู่หูนรกตัวแรกนี้คือ "เอมี่และเอ็มม่า" (บอส 3-3)
เคียน่าใช้อาวุธปืนยิงใส่พวกเขาแล้วเธอก็ต้องตกใจเมื่อพบว่า ชุดตุ๊กตาเพนกวิ้นที่มันสวมใส่นั้น ช่วยลดพลังโจมตีจากกระสุนปืนได้มากเลยทีเดียว เธอจึงจำเป็นต้องยิงกระสุนใส่เข้าไปอีกหลายนัดถึงจะฆ่าพวกเขาได้
ในระหว่างทางเดิน เคียน่ารู้สึกแปลกๆที่ซอมบี้หลายตัวที่ปรากฏตัวขวางทาเธอมีการเคลื่อนไหวที่ผิดแปลกไป พวกมันต่างวิ่งกรูกันเข้ามาหาเธอได้เร็วมากขึ้นกว่าที่ควรจะเป็น อย่างตอนที่เผชิญหน้ากับซอมบี้สาว "มารีอาที่บ้าคลั่ง" (บอส 3-5) ที่เป็นซอมบี้ติดระเบิดไว้กับตัวและวิ่งได้เร็วกว่าปกติจนเคียน่าเกือบฆ่าทิ้งแทบไม่ทัน
ในที่สุดเธอก็พบต้นตอว่า นั่นเป็นเพราะมีซอมบี้พิเศษตัวหนึ่งที่มีลักษณะแตกต่างจากซอมบี้หญิงตัวอื่นๆ มันเป็นซอมบี้สาวน้อยผมสีทองในชุดเชียร์ลีดเดอร์และถือพู่ในมือโบกสะบัดร่ายรำอยู่ท่ามกลางฝูงซอมบี้เหล่านั้น และไม่นานพวกซอมบี้ที่อยู่รอบข้างต่างก็ถูกแรงบางอย่างกระตุ้นราวกับอะดรีนาลีนหลั่งออกมาจำนวนมาก
เคียน่ารู้จักซอมบี้ตนนั้น เพราะในอดีตเธอเคยเป็นคนดังของโรงเรียนที่มีชื่อว่า "อาสึนะ กัปตันชมรมเชียร์ลีดเดอร์" (บอส 3-6)
"เฮ้... แบบนี้ไม่ตลกแล้วนะ ต้องรีบจัดการยัยนั่นซะก่อน..."
เคียน่าจึงทำการเปลี่ยนอาวุธปืนเป็นปืนไรเฟิล แล้วส่องเล็งไปที่ศีรษะของอาสึนะ ที่ยืนอยู่โดดเด่นกำลังอยู่ท่ามกลางฝูงซอมบี้สตรีตนอื่นๆ พร้อมกับเหนี่ยวไกยิงออกไปโดยไม่ลังเล กระสุนปืนไรเฟิลแรงอัดสูงพุ่งเจาะทะลุหน้าผากของอาสึนะจนสมองกระจุยระเบิดเป็นรูพรุนแล้วก็ล้มแน่นิ่งลงไป และทำให้เหล่าซอมบี้ตัวอื่นสงบลงทำให้เคียน่าสามารถกำจัดพวกมันได้ง่ายขึ้น
เธอเดินไปตามเส้นทางสักระยะหนึ่งจู่ๆก็เกิดเหตุวิปลาส เมื่อพบว่าบริเวณที่เธอกำลังจะไปเริ่มมีกลุ่มเมฆครึ้มมารวมตัวกันเป็นก้อนพร้อมกับมีเสียงครางราวกับฟ้าร้องแล้วตามมาด้วยประกายไฟฟ้าที่ผ่าลงมาบนพื้นเสียงดัง
ตูมมมมมม!!!
แล้วจากนั้นเธอก็สัมผัสได้ถึงละอองน้ำฝนที่กำลังจะตกลงมา
"พายุฝนยังงั้นเหรอ? แปลกจริงๆ" เธอไม่คาดคิดว่า พายุฝนฟ้าคะนองจะปรากฏขึ้นอย่างเร็วรวดกะทันหันแบบนี้ เหตุการณ์มันต้องไม่ปกติแน่ๆ
"นะ นั่นมัน... มีกลุ่มเมฆจับตัวกันทางด้านขวาตอนเหนือของโรงเรียน มันต้องมีอะไรเกิดขึ้นแน่ๆ ฉันจะต้องไปที่นั่น"
เหตุการณ์แปลกประหลาดที่เกิดขึ้นในช่วงอะโพคาลิปส์นับเป็นข้อมูลที่มีค่าอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการทำความเข้าใจมันที่ไม่ควรจะพลาด แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเข้าถึงมันเพราะส่วนมาก เหตุการณ์เหล่านี้มักจะตามมาด้วยภัยอันตรายร้ายแรงเสมอ แต่เคียน่าหาได้เกรงกลัวไม่
"ฉันไม่กลัวหรอกว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป" เธอมุ่งหน้าตรงไปยังเป้าหมายอย่างห้าวหาญพร้อมอาวุธที่เธอมี
"อันที่จริงแล้ว ฉันรู้สึกตื่นเต้นกับมันมากเลยล่ะ ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหรหรอกนะ เพราะฉันเป็น "หนึ่งในผู้ถูกเลือก (Destined Girls)" นี่นา"
**ผู้ถูกเลือกในที่นี้เราเคยกล่าวถึงในบทนำไปแล้ว หมายถึงผู้ที่มีการสืบทอดการรับช่วงต่อหรือเป็นผู้ที่สามารถผ่านพ้นวิกฤติการณ์อะโพคาลิปส์มาได้ซึ่งจะมีการถ่ายทอดกันจากรุ่นสู่รุ่น และผู้ถูกเลือกเหล่านี้มักจะเป็นผู้ที่ทำการศึกษาเกี่ยวกับอะโพคาลิปส์และสอนวิทยาการเพื่อเอาตัวรอดจากมหันตภัยร้ายแรงระดับมนุษยชาติมายาวนานหลายศตวรรษ**
เคียน่าวิ่งฝ่าสายฝนอันรุนแรงพร้อมกับใช้ปืนกราดยิงพวกซอมบี้ระหว่างทางทั้งหมดเพื่อที่จะบุกเข้าไปถึงใจกลางกลุ่มเมฆพายุฝนที่ยังคงดังก้องไปด้วยเสียงฟ้าร้องฟ้าผ่าอย่างต่อเนื่อง
ถึงแม้ว่าจะเจอซอมบี้สวมชุดเพนกวิ้นที่ร้ายกาจอย่าง "เบลล่า จ้าวแห่งเพนกวิ้น" (บอส 3-7) ที่มีความคล่องแคล่วในการต่อสู้ถึงแม้ว่าจะสวมชุดเพนกวิ้นอยู่
แต่เนื่องด้วยทัศนวิสัยที่เลวร้ายของฝนฟ้าคะนอง ทำให้เบลล่าไม่สามารถควบคุมได้อย่างเต็มที่ เนื่องด้วยชุดเพนกวิ้นที่รับน้ำฝนไปเป็นจำนวนมากจะเป็นตัวหน่วงให้ชุดมีน้ำหนักมากขึ้น เปิดโอกาสให้เคียน่าประเคนกระสุนและระเบิดที่เธอมีอยู่ทั้งหมดโจมตีกลับไปใส่เบลล่า จนในที่สุดเบลล่าก็พ่ายแพ้ไปอย่างง่ายดาย
เคียน่าวิ่งฝ่าสายฝนที่เทลงมาอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งถึงบริเวณหนึ่ง เธอก็พบว่า สายฝนที่เคยสาดกระหน่ำมาที่ตัวเธอเริ่มลดน้อยลง และลมที่เคยพัดโหมกระหน่ำก็เริ่มลดลงไป
"ดูเหมือนว่าฉันจะใกล้กับขอบเขตของตาพายุ (Eye of Storm) แล้วสินะ มันถึงได้ลมสงบแบบนี้"
เคียน่ากวาดสายตามองไปยังพื้นที่รอบๆ ก็เห็นว่าด้านหนึ่งของอาคารเรียนมีประกายไฟฟ้าปรากฏขึ้นพร้อมกับเสียงระเบิดดังขึ้นต่อเนื่อง เธอจึงรีบวิ่งไปที่หัวมุมอาคารแล้วหันไปมองด้านหน้าก็พบกับ...
"พวกแกมันกากกกกกกกกกกกกกก!!!! เกินไปสำหรับฉันเฟ้ย ฉันพูดจริงๆนะ!"
สิ่งที่อยู่เบื้องหน้าของเคียน่าคือ หญิงสาวผมสีดำ (ที่มีประกายไฟฟ้าสว่างจนมองเห็นเป็นสีม่วง) ตัวผอม สูง สัดส่วนดี สวมชุดนักเรียนกะลาสีสีดำของโรงเรียนเซมบะ กำลังยืนกราดเกรี้ยวอยู่ท่ามกลางซากศพของเหล่านักเรียงหญิงที่นอนตายไหม้เกรียมรอบข้าง
หญิงสาวคนนั้นมีลักษณะที่แปลกประหลาดอย่างเห็นได้ชัดคือ เขาสีดำเงาที่งอกออกมาจากหน้าผาก และปีกค้างคาวสยายที่อยู่กลางหลัง ทำให้เธอดูเหมือนสัตว์ประหลาดมากกว่านักเรียนปกติ และเธอก็เหมือนกับซอมบี้ทั่วไปด้วย..... และดูเหมือนว่า เธอจะกำจัดพวกนักเรียนรอบข้างด้วยอะไรบางอย่างจนราบ
ในตอนนั้นเองที่นัยน์ตาสีแดงดั่งโลหิตของเธอจับจ้องมองไปยังดวงตาสีเขียวน้ำทะเลของเคียน่า... เธอพบว่ายังมีคนที่ยังเหลือรอดชีวิตอยู่ในบริเวณนี้ด้วย เธอจึงยิ้มออกมาที่มุมปาก
"เดี๋ยวนะ... บางทีฉันอาจจะคิดผิดไปก็ได้"
เคียน่ารู้สึกถึงภัยคุกคามที่แผ่ออกมาจากหญิงสาวชุดนักเรียนสีดำรายนี้ เธอจึงรีบกำอาวุธในมือของเธอแน่นขึ้นและเตรียมพร้อมต่อสู้ตลอดเวลา
"ไม่ต้องห่วงหรอกนะ ฉันจะช่วยเธอเอง... จะช่วยจบชีวิตอันเส็งเคร็งของแกออกไปจากโลกใบนี้เลยล่ะ.... แต่ก่อนหน้านั้น มีอะไรจะสั่งเสียไหม? อย่างชีวิตความหลังที่มีค่าอันแสนสุขที่มีน้อยนิดของแกอะไรแบบนี้"
เคียน่าสังเกตเห็นว่า บริเวณมือขวาของหญิงสาวผมดำมีประกายไฟฟ้าสว่างวาบปรากฏขึ้นด้วย ทำให้เธอนึกเข้าใจได้ในทันทีว่า หญิงสาวผมดำคนนี้ใช้อะไรฆ่าพำวกนักเรียนที่อยู่รอบๆทั้งหมดทิ้ง
แต่ที่น่าแปลกใจกว่านั้นคือ หลังจากที่เคียน่ามองดูลักษณะของหญิงสาวคนนี้ดีๆแล้ว มันทำให้เธอจำได้ว่า ผู้หญิงคนนี้ก็คือ....
"ฉันจำได้แล้ว...เธอคือ ไรเดน เมย์ (Raiden Mei) จอมหักอกนี่เอง ใครๆต่างก็รู้จักเธอทั้งนั้น เพราะเธอน่ะ ปฏิเสธพวกผู้ชายที่เข้ามาจีบเธอจนหักอกไปถึง 12 คนรวดในวันเดียวกัน"
ทันทีที่เอ่ยชื่อนั้นออกมา หญิงสาวผมดำ ที่ชื่อไรเดน เมย์ก็ฉีกยิ้มกว้างขึ้น
"หึ มีคนรู้จักชื่อฉันด้วยเหรอเนี่ย...ก็ดีแล้ว ถ้างั้นแกคงจะรู้สินะว่า จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเธอตั้งตนเป็นศัตรูกับฉัน"
ในตอนนั้นเองเคียน่าก็มองไปที่โทรศัพท์มือถือที่แจ้งสัญญาณเตือนว่าทุกครั้งที่ไรเดนย่างเท้าเข้ามาใกล้ๆ สัญญาณจะดึงขึ้นเรื่อยๆ สัญญาณที่บ่งบอกถึงพลังงานต้นกำเนิดของอะโพคาลิปส์ และนั่นก็ยิ่งทำให้เคียน่าไม่อยากเชื่อมากขึ้นว่า ต้นกำเนิดของพลังงานที่ก่อให้เกิดอะโพคาลิปส์อยู่ในตัวของไรเดน ถ้าอย่างนั้นเธอก็น่าจะเป็นซอมบี้เหมือนคนอื่นๆ แต่มันกลับไม่เป็นแบบนั้น
"เธอต่อต้านการควบคุมทางจิตใจของพลังงานต้นกำเนิดอะโพคาลิปส์ได้ยังไง?"
"ก่อนที่ฉันจะตอบคำถามแก ทำไมแกไม่แนะนำตัวเองให้ฉันรู้จักก่อนล่ะ? มันเป็นมารยาทไม่ใช่เรอะ?"
ไรเดนย้อน
"แน่นอนว่าแกรู้จักชื่อของฉันแล้วนี่ แล้วการที่ทำท่าแบบนั้นแสดงว่า แกอยากจะกำจัดฉันเหมือนกับยัยพวกนี้สินะ"
เคียน่ามองไปที่ศพโดยรอบที่ไรเดนเป็นคนฆ่าและถ้าลองสังเกตดีๆเธอก็พบว่า ศพที่เหมือนถูกอะไรบางอย่างที่มีความร้อนเผาจนไหม้เกรียมนั้น ไม่ใช่พวกซอมบี้ที่โดนล้างสมองทั้งหมด แต่เป็นแค่เด็กสาวผู้เคราะห์ร้ายทั่วไป แล้วก็มีเด็กสาวที่ไหม้เกรี้ยมคนหนึ่งจับขาของเคียน่าพร้อมกับพูดด้วยเสียงสั่นเครือเป็นเฮือกสุดท้ายว่า.... "...ห.นี........ไ........ป" พร้อมกับขาดใจตายในเวลาต่อมา
เคียน่าจ้องมองไรเดนด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยพร้อมกับพูดออกมาว่า...
"ฉันไม่ยอมยกโทษให้เธอในเรื่องนี้แน่!!"
"ก็ดี!!! งั้นก็ตายไปซะ!!!"
ชั่วพริบตา ไรเดนก็ยื่นมือออกไปทางเคียน่าพร้อมกับมีกระแสไฟฟ้าแรงดันสูงพุ่งออกจากฝ่ามือเป็นก้อนพลังงานราวกับกระสุนปืนใหญ่พุ่งตรงไปทางเคียน่าอย่างรวดเร็วแต่เคียน่าก็สามารถกระโจนหลบไปด้านข้างได้พร้อมกับยิงกระสุนปืนสวนกลับมา...
ปัง ปัง ปัง ปัง!!!!
"เปล่าประโยชน์!!!"
ในตอนนั้นเองไรเดนก็สร้างม่านสนามพลังไฟฟ้าทรงกลมล้อมรอบตัวเธอไว้ก่อนที่กระสุนของเคียน่าจะยิงมาถึง ทำให้กระสุนของเคียน่าถูกม่านพลังที่เป็นเหมือนเกราะสนามแม่เหล็กทำลายหายไป
"ผู้ใช้ไฟฟ้างั้นเรอะ!! สมกับเป็น ไรเดน* (สายฟ้าฟาด) จริงๆ"
**雷電 [ไรเดน หรือ เหลยเตี่ยน] แปลว่า ฟ้าผ่า**
"แกไม่มีทางเอาชนะฉันได้หรอก!!"
ไรเดนตะโกนกราดเกรี้ยวพร้อมกับกระหน่ำยิงพลังไฟฟ้าที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากร่างกายของเธอใส่เคียน่าไม่หยุด จนเคียน่าได้แต่หาทางหลบการโ๗มตีอย่างเดียว
"หนอยยย ถ้าเป็นแบบนี้ล่ะก็...."
เคียน่าปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในการต่อสู้ โดยการโยนระเบิดแสงใส่ทำให้ไรเดนตาพร่าไปสักระยะหนึ่งเพื่อสร้างโอกาสให้ตนเองได้ทำอะไรบางอย่าง พร้อมกับยิงปืนสวนกลับไปบ้าง แต่ไม่ว่าจะโจมตีใส่ไรเดนมากเท่าไหร่ เธอก็ไม่รู้สึกสะเทือนเลยแม้แต่น้อย เนื่องด้วยม่านพลังไฟฟ้าที่เธอใช้งานตลอดเวลา
ในที่สุด ฤทธิ์ของระเบิดแสงก็หมดลง เคียน่าได้ทำการปาระเบิดโจมตีใส่ไรเดนทำให้ไรเดนใช้ม่านพลังไฟฟ้าป้องกันไว้ได้อย่างทันท่วงทีแต่ว่า แรงระเบิดนั้นก็สร้างแรงมหาศาลผลักให้ไรเดนเซถอยหลังไปด้านหลัง ที่ซึ่งเคียน่าได้วางกับระเบิดวางรอไว้แล้ว...
"บะ บ้าน่า!!"
"ฉันชนะแล้ว..."
ตูมมมมมมมมมมมมม!!!!
กับระเบิดที่ไรเดนเหยียบลงไปทำงานอย่างรวดเร็ว ก่อให้เกิดความเสียหายและแรงสั่นสะเทือนจำนวนมากจนฝุ่นตลบอบอวลไปทั่ว และท่ามกลางควันนั้น ก็มีเสียงกรีดร้องด้วยความบ้าคลั่งของไรเด็นดังออกมา...
"ไม่จริง!! ฉันแพ้ไอ้กระจอกแบบแกได้ยังไง?"
สาเหตุที่ไรเดนยังรอดชีวิตอยู่คงเป็นเพราะเธอคงเปิดม่านสนยามพลังได้ทัน แต่ก็ไม่เร็วพอที่จะต้านความเสียหายจากแรงระเบิดได้ทั้งหมด เพราะหลังจากที่ควันจางลงก็เผยให้เห็นร่างของเธอที่เต็มไปด้วยบาดแผลและสะบักสะบอมจากแรงระเบิดจนเสื้อผ้าฉีกขาด และร่างกายที่อาบไปด้วยเลือดจนยืนแทบไม่ขึ้น
"คราวหน้า....!!! ฉันจะฆ่าแกให้ได้!!!!!
คอยดูสิ!!!"
ไรเดนตะโกนด้วยความกราดเกรี้ยวก่อให้เกิดฟ้าผ่าอย่างรุนแรงเป็นประกายแสงสีขาวสว่างวาบ และพายุฝนที่โหมกระหน่ำไปทั่วจนเคียน่าต้องเผลอยกมือขึ้นมาบังตาไว้
"เดี๋ยวก่อน ตอบคำถามของฉันมาก่อนสิ!!"
เคียน่าพยายามจะหยุดไรเดนไว้ แต่เนื่องด้วยสภาพอากาศที่เลวร้ายรอบข้างทำให้เคียน่าไม่สามารถมองเห็นไรเด็นชัด จึงเปิดโอกาสให้ไรเดนสยายปีกที่บาดเจ็บของเธอขึ้นพร้อมกับบินหนีออกไปจากบริเวณนั้นอย่างรวดเร็ว และหลังจากนั้นไม่นาน พายุที่อยู่รอบข้างก็สงบลงพร้อมกับการหายตัวไปของไรเดน
"บ้าเอ้ย!!!"
"คราวหน้าฉันจะไม่ยอมปล่อยให้เธอหนีไปได้แน่
ไรเดน เมย์...."
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น